ที่ Deva Clinic (ดีว่า คลินิก) เราให้ความสำคัญสูงสุดกับเรื่อง “ความปลอดภัย” ของผู้เข้ารับบริการ การดูดไขมันที่นี่จึงอยู่ภายใต้การดูแลของ วิสัญญีแพทย์แบบ 1 ต่อ 1 (1:1) ตลอดการทำหัตถการ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าการเปลี่ยนแปลงรูปร่างครั้งนี้ จะมาพร้อมกับความอุ่นใจและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ทำไมการดูดไขมันต้องมีวิสัญญีแพทย์? และทำไมต้องดูแลแบบ 1:1? เราสรุปมาให้คุณเข้าใจง่ายๆ ใน 9 ข้อสำคัญดังนี้
1. วิสัญญีแพทย์ คือใคร? ทำไมต้องมีในการดูดไขมัน
วิสัญญีแพทย์ (Anesthesiologist) คือแพทย์เฉพาะทางที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการระงับความรู้สึกโดยตรง ไม่ใช่แค่ทำให้หลับ แต่มีหน้าที่สำคัญคือ:
- ดูแลรักษาสัญญาณชีพ (Vital Signs) ของคนไข้ตลอดการผ่าตัด
- ควบคุมความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
- ดูแลระบบทางเดินหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตให้เป็นปกติ
2. การดูแลแบบ 1:1 (One-on-One) คือหัวใจสำคัญ
มาตรฐานของ Deva Clinic คือ วิสัญญีแพทย์ 1 ท่าน ต่อ คนไข้ 1 คน โดยคุณหมอจะอยู่เฝ้าในห้องผ่าตัดตลอดเวลา ตั้งแต่เริ่มดมยาจนกระทั่งผ่าตัดเสร็จสิ้นและส่งเข้าห้องพักฟื้น ไม่มีการวิ่งรอกดูเคสอื่น เพื่อให้สามารถเฝ้าระวังและแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงทีหากเกิดเหตุฉุกเฉิน
3. การคำนวณยาที่แม่นยำ เฉพาะบุคคล
ร่างกายของแต่ละคนตอบสนองต่อยาไม่เหมือนกัน วิสัญญีแพทย์จะทำหน้าที่ประเมิน เลือกชนิด และคำนวณปริมาณยาที่เหมาะสมกับสภาวะร่างกายของคนไข้แต่ละราย เพื่อให้การฟื้นตัวหลังผ่าตัดดีที่สุด ลดอาการข้างเคียง เช่น อาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือเวียนหัวให้น้อยที่สุด
4. เครื่องติดตามสัญญาณชีพ (Vital Sign Monitor) มาตรฐานโรงพยาบาล
เราใช้เครื่องมือแพทย์คุณภาพสูงระดับเดียวกับโรงพยาบาลชั้นนำ สามารถติดตามค่าต่างๆ ได้แบบ Real-time:
- อัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate)
- ความดันโลหิต (Blood Pressure)
- ระดับออกซิเจนในเลือด (Oxygen Saturation)
- คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
5. การตรวจร่างกายและคัดกรองอย่างละเอียด (Pre-op Screening)
ก่อนการดมยาสลบ ทุกเคสต้องผ่านการตรวจสุขภาพอย่างเข้มงวด ได้แก่:
- ซักประวัติโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา และประวัติการผ่าตัด
- ตรวจเลือดชุดใหญ่ (CBC, HIV, ไวรัสตับอักเสบ)
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) สำหรับผู้ที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป
- เอกซเรย์ปอด (Chest X-ray) สำหรับผู้ที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป
- การให้คำแนะนำเรื่องงดน้ำและอาหาร (NPO) อย่างเคร่งครัด
6. ระบบความพร้อมและอุปกรณ์ช่วยชีวิตฉุกเฉิน
Deva Clinic ไม่ประมาทในทุกวินาที เราเตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ด้วย:
- Emergency Cart: รถเข็นยาและอุปกรณ์ช่วยชีวิตฉุกเฉินครบครัน
- เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้า (Defibrillator) พร้อมใช้งานทันที
- MOU กับโรงพยาบาล: มีระบบประสานงานเพื่อส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลเครือข่ายได้ทันทีหากเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ซับซ้อน
7. ห้องพักฟื้น (Recovery Room) มาตรฐาน
หลังการผ่าตัดและหยุดจ่ายยาสลบ คนไข้จะถูกย้ายมายังห้องพักฟื้น (Recovery Room) โดยมีพยาบาลวิชาชีพและทีมแพทย์คอยดูแลอย่างใกล้ชิด
- ติดตามสัญญาณชีพต่อเนื่องจนกว่าจะตื่นเต็มที่
- ประเมินระดับความเจ็บปวด (Pain Score)
- ดูแลอาการข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน
- เมื่อคนไข้รู้สึกตัวดี 100% และสัญญาณชีพปกติ จึงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้
8. ใครบ้างที่เหมาะกับการดูดไขมันแบบดมยาสลบ?
- ดูดไขมันปริมาณมาก: หรือคนไข้ไซซ์ใหญ่
- ทำหลายบริเวณพร้อมกัน: เช่น ดูดทั้งตัว, ดูดแขน+หน้าท้อง+ขา ซึ่งใช้เวลานาน
- กลัวความเจ็บปวด: กังวลเรื่องการฉีดยาชา หรือกลัวขณะทำหัตถการ
- ต้องการความสบาย: ตื่นมาแล้วเสร็จเลย ไม่ต้องรับรู้ขั้นตอนระหว่างทำ
9. เช็กลิสต์เลือกคลินิกดูดไขมัน ดมยาสลบ อย่างไรให้ปลอดภัย
ก่อนตัดสินใจดูดไขมันด้วยวิธีดมยาสลบ ต้องตรวจสอบสิ่งเหล่านี้:
[ ] แพทย์จริง: ตรวจสอบรายชื่อวิสัญญีแพทย์ได้จากเว็บไซต์แพทยสภา
[ ] ตรงปก: วันที่ผ่าตัด วิสัญญีแพทย์ต้องเป็นคนเดียวกับที่แจ้งไว้
[ ] ดูแล 1:1: แพทย์ต้องอยู่เฝ้าตลอดเวลา ไม่ไปไหน
[ ] เครื่องมือครบ: มีเครื่อง Monitor สัญญาณชีพและอุปกรณ์กู้ชีพ
[ ] มีห้องพักฟื้น: ดูแลหลังตื่นจนปลอดภัย
รีวิวจากคนไข้จริง
สรุป:
การดูดไขมัน ดมยาโดยวิสัญญีแพทย์ ที่ Deva Clinic เราไม่ได้มอบแค่ความสวย แต่เรามอบความปลอดภัยระดับมาตรฐานโรงพยาบาล เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่า ทุกนาทีที่คุณหลับ คือความรับผิดชอบที่เราดูแลอย่างดีที่สุด
นพ.ชัยวิทย์ ด่านค้ามาก

