หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยที่สุดก่อนตัดสินใจดูดไขมันคือ “ต้องพักฟื้นกี่วัน?” และ “จะกลับไปทำงานได้เมื่อไหร่?”
การดูดไขมันในปัจจุบันถือเป็นการผ่าตัดเล็ก (Minimal Invasive) ที่ใช้เวลาฟื้นตัวค่อนข้างเร็ว โดยทั่วไป แพทย์จะแนะนำให้หยุดพักงานประมาณ 3-5 วัน อย่างไรก็ตาม ระยะเวลานี้อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน, ลักษณะงานที่ทำ, และบริเวณที่ดูดไขมัน
ทำไมการพักฟื้นที่ถูกต้องจึงสำคัญ?
การพักฟื้นที่ถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์ เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่สวยงามที่สุด เพราะจะช่วย
- ลดอาการบวมช้ำ: ช่วยให้ร่างกายกำจัดน้ำเหลืองส่วนเกิน และยุบบวมได้รวดเร็วขึ้น
- ลดการเกิดพังผืด: การฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปและการใส่ชุดกระชับ จะช่วยให้การสร้างพังผืดใต้ผิวเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ
- ช่วยให้ผิวเข้าที่: การใส่ชุดกระชับอย่างเคร่งครัด จะช่วยกดให้ผิวหนังที่เกิดช่องว่างหลังเอาไขมันออก กลับไปยึดติดกับกล้ามเนื้อได้ดีขึ้น ป้องกันการเกิดผิวเป็นคลื่นหรือไม่เรียบเนียน
อาการที่ต้องเจอในช่วงแรก (เตรียมรับมือ)
ในช่วง 3-5 วันแรก คุณจะพบอาการเหล่านี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ
- อาการปวด: จะเป็นลักษณะปวดตึง คล้ายการออกกำลังกายมาอย่างหนัก (ปวดระบม) จะเป็นมากที่สุดในช่วง 1-3 วันแรก สามารถทานยาแก้ปวดที่แพทย์จ่ายให้เพื่อบรรเทาอาการได้
- อาการบวม: เป็นเรื่องปกติที่จะเกิดขึ้น โดยจะบวมมากที่สุดในช่วงวันที่ 3 หลังการดูดไขมัน
- อาการช้ำ: รอยช้ำจะค่อยๆ จางลงและหายไปเองภายใน 2 สัปดาห์ (ส่วนใหญ่จะไม่เกินนี้)
- น้ำซึมจากแผล: ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก อาจมีน้ำเกลือ ยาชา หรือเลือดซึมออกจากแผลเล็กน้อย ถือเป็นปกติ หากซึมจนเปียกผ้าก๊อซ ก็สามารถเปลี่ยนผ้าก๊อซและทำแผลใหม่ได้
เปิดไทม์ไลน์การพักฟื้น
ช่วง 1-3 วันแรก (24-72 ชั่วโมง)
การดูแล: นี่คือช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน
- พักผ่อน: งดกิจกรรมหนักๆ เน้นการพักผ่อนเป็นหลัก
- ยกระดับ: ยกบริเวณที่ดูดไขมันให้อยู่สูงกว่าระดับหัวใจ (เช่น หากดูดต้นขา ให้นอนเอาหมอนรองขาให้สูง / หากดูดต้นแขน ให้เอาหมอนรองแขนให้สูง) เพื่อลดอาการบวมส่วนปลาย
- แผล: ห้ามแผลโดนน้ำโดยเด็ดขาด และต้องทำความสะอาดแผลทุกวัน
สัปดาห์ที่ 1 (วันที่ 4-7)
การดูแล: เริ่มเคลื่อนไหวเบาๆ และกลับไปทำงานได้
- การเคลื่อนไหว: เริ่มลุกเดินเบาๆ ภายในบ้าน เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต แต่ยังคง “งด” การออกกำลังกายหนัก
- การทำงาน: หากเป็นงานออฟฟิศ นั่งโต๊ะ สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ
- การตัดไหม: แพทย์จะนัดตัดไหมในช่วง 7 วัน
สัปดาห์ที่ 2-4
การดูแล: ยุบบวมชัดเจน กลับไปใช้ชีวิตปกติ
- อาการ: อาการบวมช้ำจะลดลงอย่างชัดเจน
- การทำงาน: สามารถกลับไปทำงานและใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- การใส่ชุดกระชับ: ยังคงต้องใส่ชุดกระชับอย่างต่อเนื่อง
ช่วง 1-3 เดือน
การดูแล: ร่างกายเริ่มเข้าที่ และเริ่มออกกำลังกายเบาๆ ได้
- ผลลัพธ์: สัดส่วนจะเริ่มเข้าที่และเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน (ประมาณ 50% ที่ 1 เดือน และ 80% ที่ 3 เดือน)
- การออกกำลังกาย: หลัง 1 เดือน สามารถเริ่มกลับไปออกกำลังกายแบบเบาๆ ได้
- การใส่ชุดกระชับ: เมื่อครบ 1 เดือนแรก แพทย์อาจแนะนำให้ใส่ต่ออีกประมาณครึ่งเดือน แต่สามารถลดชั่วโมงลงได้ (เช่น เหลือ 12-16 ชั่วโมงต่อวัน)
กลับไปทำงานได้เมื่อไหร่? (ประเมินตามลักษณะงาน)
- งานออฟฟิศ (นั่งโต๊ะ): โดยเฉลี่ยพักฟื้น 3 วันก็เพียงพอ (บางเคสแทบไม่ได้พักเลย)
- งานที่ต้องยืนหรือเดินเยอะ (เช่น งานขาย):
-
- หากดูดแขนหรือหน้าท้อง: แทบไม่มีผล สามารถกลับไปทำได้หลัง 3-5 วัน
- หากดูดต้นขา: อาจต้องใช้เวลาพักฟื้น หรือเลี่ยงการยืนนานๆ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อลดอาการบวมที่ขา
- งานที่ใช้แรงงาน (ยกของหนัก): ควรงดเว้นการออกแรงหนักๆ หรือยกของหนักในบริเวณที่ทำ อย่างน้อย 2 สัปดาห์
กลับมาออกกำลังกายได้เมื่อไหร่?
- 2 สัปดาห์: สามารถเริ่มออกกำลังกาย “เบาๆ” ในส่วนที่ “ไม่ได้” ดูดไขมัน
- 1 เดือน: สามารถเริ่มออกกำลังกาย “เบาๆ” ในส่วนที่ “ดูดไขมัน” ได้
- 3 เดือนขึ้นไป: สามารถกลับไปออกกำลังกายได้ทุกส่วนตามปกติ
รีวิวเคสจริง
5 ปัจจัยที่ทำให้ระยะเวลาพักฟื้นของแต่ละคนไม่เท่ากัน
1.บริเวณและพื้นที่
การดูดหลายบริเวณพร้อมกัน (เช่น แขนและขา) ย่อมใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าการดูดจุดเดียว
2.ปริมาณไขมันที่ดูดออก
เคสไซส์ใหญ่ที่ดูดไขมันออกในปริมาณมาก จะมีการบาดเจ็บใต้ผิวมากกว่า อาจบวมช้ำและปวดระบมมากกว่า
3.อายุและสุขภาพโดยรวม
สุขภาพที่แข็งแรงจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
4.การดูแลตัวเองหลังทำ
การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด (โดยเฉพาะการใส่ชุดกระชับ และการควบคุมอาหาร) มีผลต่อการฟื้นตัวอย่างมาก
5.ลักษณะงานที่ทำ
ดังที่กล่าวไปข้างต้น งานที่ต้องใช้แรงจะต้องการเวลาพักฟื้นนานกว่า
สัญญาณอันตราย อาการแบบไหนที่ควรรีบพบแพทย์
การสังเกตตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบติดต่อคลินิกหรือแพทย์ทันที
- มีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส
- มีอาการปวด แดง ร้อน หรืออักเสบบริเวณแผลหรือจุดที่ดูดไขมัน
- มีอาการปวดที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ทานยาแก้ปวดแล้วก็ไม่ทุเลา
- มีหนอง, ของเหลวมีกลิ่นไม่พึงประสงค์, หรือน้ำสีขุ่น/เขียว ไหลออกจากแผล
โดยสรุป การดูดไขมันเป็นการผ่าตัดเล็กที่ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน โดยทั่วไปแนะนำให้หยุดงานประมาณ 3-5 วัน สำหรับงานออฟฟิศ และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติภายใน 1-2 สัปดาห์
หัวใจสำคัญของการฟื้นตัวคือการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะ การใส่ชุดกระชับ และการพักผ่อนอย่างเพียงพอในช่วงแรก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ลดอาการบวม และป้องกันผิวเป็นคลื่น ทั้งนี้ หากมีอาการผิดปกติ เช่น มีไข้สูง หรือปวดรุนแรง ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
บทความโดย นพ.ชัยวิทย์ ด่านค้ามาก

